Category: fashion

              เสื้อแขนพอง เป็นแฟชั่นที่เฟื่องฟูในยุค 80’s ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งยุคที่พีคเรื่องแฟชั่นเลยก็ว่าได้ และไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย เรื่องของแฟชั่นก็ยังคงเป็นกระแสที่หมุนย้อนกลับมาได้อีก วันนี้เราเลยจะพามาลองมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อแขนพอง รับรองว่าปังทุกแบบแน่นอน

1. เชิ้ตขาวแขนพอง
   เปลี่ยนวันเดิมๆ อันน่าเบื่อ ให้กลายเป็นเอ็นจอยสุดๆ ด้วยการแต่งตัวลุคคูลๆ ออกจากบ้าน โดยมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อเชิ้ตที่มีดีเทลเป็นแขนพองๆ น่ารักๆ ถ้าอยากเพิ่มความมุ้งมิ้งขึ้นอีกนิด ก็ให้เลือกเสื้อที่ตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้ จะยิ่งทำให้ได้ลุคที่ดูหรูขึ้นอีกเยอะเลย จะเลือกแมตช์กับกางเกงขาบาน ขาเดฟ หรือยีนส์ก็เท่ไม่เบา

• เสื้อแขนพองลายเก๋
  ใครอยากเพิ่มความสนุกขึ้นอีกขั้น ลองเลือกใส่แขนพองที่มีลวดลายเก๋ๆ มีดีเทลมากขึ้น เมื่อแมตช์ออกมาก็จะได้เป็นลุคที่แซ่บขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลายทาง ลายจุด ลายกราฟฟิก หรือลายหนังสัตว์ ก็ทำให้ดูแซ่บ สนุกสดใส แสนซน แบบไม่แคร์สื่อ แต่ลุคนี้เหมาะกับคนที่ชอบความเยอะ ไม่เน้นความมินิมอลนะจ๊ะ

• เสื้อครอปแขนพอง
  สำหรับใครที่เป็นสายแซ่บ สามารถยกระดับความเซ็กซี่ขึ้นอีกนิดได้ ด้วยการเลือกใส่เสื้อครอปแขนพอง เมื่อมิกซ์แอนด์แมตช์กับกางเกงและรองเท้าส้นสูง ก็จะได้ลุคที่ดูเซ็กซี่ แต่ก็มีความน่ารักในตัวเอง ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะแมตช์เสื้อแบบนี้กับอะไรดี ก็ลองหยิบไอเทมฮิตตลอดกาล ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ไม่มีวันตาย อย่างกางเกงหรือกระโปรงยีนส์มาแมตช์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกางเกงขาบาน ขาเดฟ ขาม้า หรือแม้แต่ขาห้าส่วน ก็รอดแน่นอน

• เดรสแขนพอง
  ใครที่อยากสวยครบจบในตัวเดียวแบบไม่ต้องเสียเวลาแมตช์เสื้อผ้าให้ยุ่งยาก เราขอแนะนำให้เลือกเดรสแขนพองที่ไม่ต้องแมตช์เสื้อผ้า สามารถหยิบมาใส่แล้วออกจากบ้านได้เลย นอกจากจะไม่ต้องยุ่งยากแล้ว ลุคนี้ยังดูหวานแต่ก็มีความแฟชั่นนิสต้าอยู่ในตัวด้วย

             สำหรับใครที่สนุกกับการแต่งตัว และรู้สึกอินกับการแต่งตัวเป็นสาวยุค 80’s ก็อย่ารอช้า รีบหาไอเทมเสื้อแขนพองที่เรานำมาฝากในวันนี้ไปแมตช์ให้เก๋ในแบบของตัวเองกันได้เลย หรือถ้าใครชอบสไตล์เก่าๆ แบบวินเทจก็ยังมีอีกหลายไอเทมให้เลือกใส่ ถูกใจแบบไหนรีบไปหามาติดตู้กันเลย

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

              เป็นที่รู้กันดีกว่า ยีนส์ คือไอเทมเสื้อผ้ากันตาย ที่หากนึกไม่ออกว่าจะแต่งตัวยังไงดี ก็สามารถหยิบมาใส่ได้เลย ไม่ต้องคิดมาก เพราะหากไม่ได้ไปงานที่เป็นทางการ ก็ใส่ยีนส์ได้ตลอด ซึ่งนอกเหนือจากกางเกงยีนส์ที่เป็นไอเทมฮิตของทุกเพศทุกวัยแล้ว กระโปรงยีนส์ ก็ยังเป็นอีกไอเทมหนึ่งที่ดีงามไม่แพ้กัน ใส่แล้วได้ทั้งลุคเซอร์ เท่ และน่ารักในเวลาเดียวกัน มาดูดีกว่าว่ากระโปรงยีนส์ทรงไหนบ้างที่ใส่ได้ไม่มีเอาท์แน่นอน

1. กระโปรงยีนส์ทรงเอแบบสั้น (มินิสเกิร์ต)
   นับเป็นทรงที่มั่นใจว่าสาวๆ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพราะมันเป็นทรงเดียวกับกระโปรงที่นักศึกษาชอบใส่กัน ซึ่งกระโปรงทรงเอนั้นก็มีทั้งแบบสั้นและแบบยาว สำหรับแบบสั้น บางทีเราก็เรียกมันว่า มินิสเกิร์ต เพราะค่อนข้างเข้ารูป ส่วนการแต่งตัวง่ายๆ แต่กลับทำให้ดูดีสุดๆ นั่นก็คือ จับคู่กระโปรงยีนส์กับเสื้อยืดสีพื้นๆ โดยเน้นดีเทลที่ตัวกระโปรงมากกว่า จะเลือกแบบขาดๆ เซอร์ๆ หรือมีกิมมิคเป็นกระดุมแถบหน้าก็เก๋ไม่เบา

• กระโปรงยีนส์ทรงเอแบบยาว
  สำหรับสาวๆ คนไหนที่ไม่ชอบใส่กระโปรงสั้นๆ ก็ลองหากระโปรงยีนส์ทรงเอยาวประมาณเข่า หรือยาวกว่านั้นที่ไม่บานมากนักมาใส่แทนก็ได้ น่ารักกำลังดี ดูไม่โป๊ แถมยังใส่แมตช์กับเสื้อได้หลายแบบด้วย แต่ถ้าไม่อยากให้ดูตันเกินไป ก็ควรใส่กับเสื้อเปิดไหล่ เสื้อคอปาด หรือเสื้อแขนกุด

• กระโปรงยีนส์ทรงดินสอ
  เป็นทรงกระโปรงที่ปลายหุบเข้า จึงช่วยเน้นรูปร่างให้ดูเด่นขึ้นได้ ซึ่งส่วนมากแล้วความยาวของกระโปรงทรงนี้จะอยู่ที่ประมาณเข่า สามารถใส่แมตช์กับเสื้อได้หลายเนื้อผ้า ถ้าเป็นผ้ายืดก็จะให้ฟีลเซอร์ๆ สบายๆ ส่วนผ้าทอก็จะให้ฟีลที่ดูคุณหนูและเนี๊ยบขึ้น จะใส่กับเสื้อตัวใหญ่ๆ หรือเสื้อครอปก็ดีไปหมด และยังเป็นทรงที่สาวๆ นิยมแมตช์กับเสื้อเชิ้ตเพื่อใส่เป็นชุดทำงานกันมากที่สุด

• กระโปรงยีนส์ทรงบาน
  ถ้าให้พูดถึงความสะดวกสบายในการสวมใส่ ก็ต้องบอกว่ากระโปรงยีนส์ทรงบานและยาวนี่แหละใส่สบายที่สุด แถมยังเป็นไอเทมที่มีกลิ่นอายความเป็นวินเทจนิดๆ ด้วย ใครชอบแฟชั่นแนวนี้ก็จัดเสื้อวินเทจมาแมตช์ได้เลย

              เป็นยังไงกันบ้างกับตัวอย่างการมิกซ์แอนด์แมตช์ กระโปรงยีนส์ทรงต่างๆ ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ที่บ้านใครมีกระโปรงยีนส์หลายๆ ตัว หลายๆ ทรง ก็อย่าลืมนำมาลองแต่งตามกันดูได้นะ

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy 

               เชื่อว่าหลายคนน่าจะเห็นด้วยว่า เอี๊ยม เป็นไอเทมเสื้อผ้าที่น่ารักและเก๋มากๆ แต่บางคนก็ติดปัญหาไม่อยากแต่งตัวให้ดูแบ๊วเกินไป ถ้าเป็นตอนเด็กๆ ก็คงไม่คิดอะไรมาก แต่พอโตแล้วนี่สิ การใส่เอี๊ยมมันยังดูโอเคอยู่ไหมนะ? วันนี้เราเลยมีวิธีใส่เอี๊ยมไม่ให้ดูแบ๊ว แถมใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

เอี๊ยมไม่ได้มีแค่ผ้ายีนส์
พอพูดถึงลุคเอี๊ยม คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึง เอี๊ยมยีนส์ แต่จริงๆ แล้ว ยังมีเอี๊ยมที่ทำจากผ้าอื่นๆ อีกเยอะมาก ใครไม่อยากดูแบ๊ว ลองหาเอี๊ยมที่ไม่ใช่ผ้ายีนส์ คัตติ้งเนี้ยบๆ ทรงสวยๆ มาใส่ดู จะทำให้ได้ลุคเอี๊ยมซอฟๆ น่ารักๆ และดูไม่น่าเบื่อด้วย

แมตช์เอี๊ยมกับเสื้อครอป
สาวๆ บางคนรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเวลาใส่เสื้อครอป เพราะกลัวว่ามันอาจจะโป๊แบบไม่ตั้งใจได้ แต่ถ้าลองจับเสื้อครอปมาใส่คู่กับเอี๊ยม ก็จะรู้สึกมั่นใจขึ้นอีกเยอะเลย เพราะไม่ว่าจะยกไม้ยกมือยังไง ก็ไม่มีทางโป๊ แต่เอาแค่ครอปเบาๆ ให้รู้สึกเซ็กซี่เล็กน้อยก็พอ จะช่วยเสริมให้ลุคดูน่าสนใจเพิ่มขึ้น

ใส่เอี๊ยมกับรองเท้าส้นสูง
วิธีนี้เหมาะมากถ้าอยากจะใส่เอี๊ยมแบบไม่ให้ดูเด็กเกินไป แค่ลองเลือกรองเท้าส้นสูงเก๋ๆ มาแมตช์สักคู่ เท่านี้ก็ช่วยให้ดูชิค และดูโตขึ้นมาอีกเป็นกองแล้ว

ใส่เสื้อลายกับเอี๊ยม
ถ้าอยากเพิ่มความสนุกให้กับการใส่เอี๊ยมมากขึ้น ก็ลองหาเสื้อลายแปลกๆ หรือ แพตเทิร์นแปลกๆ มาแมตช์กับเอี๊ยมดูสิ จะทำให้ได้ลุคเป็นสาวขี้เล่น ดูสนุกสนานขึ้นมาในทันทีเลย

หาเสื้อคลุมมาใส่คู่เอี๊ยม
ถ้าอยากให้ลุคเอี๊ยมดูเป็นทางการมากขึ้น เราสามารถเพิ่มเสื้อคลุมเก๋ๆ อย่างสเวตเตอร์ คาร์ดิกัน หรือ กิโมโน ก็ได้หมด ยิ่งถ้าแมตช์กับแจ๊คเก็ตเท่ๆ สักตัว ก็จะยิ่งดูมีอะไรมากขึ้น

เลือกไซส์ของเอี๊ยมที่พอดีตัว

ใครที่มีเอี๊ยมตัวใหญ่ๆ ที่ซื้อไว้นานแล้ว แนะนำว่าให้เอามาเข้าทรงให้พอดีตัวก่อน เพราะเอี๊ยมตัวใหญ่ๆ มันดูธรรมดาและน่าเบื่อไปเกินไป ถ้าจะซื้อใหม่ก็ลองหาไซส์ที่พอดี ไม่หลวม ก็จะได้ลุคที่ดูไม่ตั้งใจเกินไป สวยแบบชิลล์ๆ ยังไงล่ะ

              ได้ไอเดียใส่เอี๊ยมตัวให้ดูชิคกันไปแล้ว ใครมีเอี๊ยมเก่าเก็บอยู่ในตู้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ก็ลองเอามาใส่แล้วปรับตามคำแนะนำเหล่านี้ได้เลย เพราะเชื่อเถอะว่าเอี๊ยมจะเป็นแฟชั่นที่อยู่ไปอีกนาน และจะไปๆ มาๆ อยู่อย่างนี้แหละ มีติดตู้ไว้ ได้ใช้แน่นอน

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

               สำหรับสาววัยทำงาน เวลาส่วนใหญ่ก็มักอยู่ที่ออฟฟิศมากกว่าการออกไปเที่ยว ฉะนั้นการแต่งตัวไปทำงานจึงเป็นลุคที่มีความสำคัญมากๆ เพราะมันอยู่กับตัวเรานานกว่าลุคอื่นๆ เวลาไปทำงานจึงต้องแต่งให้ดูดีไว้ก่อน วันนี้เราเลยจะมาแนะนำแฟชั่นชุดทำงานเก๋ๆ สไตล์เวิร์คกิ้ง วูแมน ให้สาวๆ เอาไปลองแต่งกัน ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันดีกว่าว่ามีแบบไหนบ้าง

1. ชุดเช็ต
   สำหรับไอเทมที่แต่งตัวได้ง่ายที่สุด และคุ้มค่าที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นชุดเซ็ต หรือชุดสูทที่จัดไว้เป็นเซ็ต เพราะเสื้อผ้าที่เข้าชุดกันแบบนี้ นอกจากจะไม่ต้องคิดมากเรื่องการจับคู่แมตช์แล้ว ยังรับประกันความดูดี มีระดับ แถมยังช่วยให้ดูทะมัดทะแมง พร้อมทำงาน ดูเป็นมืออาชีพสุดๆ เลยด้วย

• เสื้อเบลเซอร์แบบครอป
  เป็นเบลเซอร์ที่กำลังได้รับความนิยมมาก หากเราจะแมตช์ลุคสาวทำงาน การใช้ไอเทมนี้ในการแต่งตัวจะทำให้ลุคของเราดูไม่น่าเบื่อ เพราะนอกจากจะดูสมาร์ทแล้ว การเป็นเสื้อครอปยังทำให้ดูเแฟชั่นมากขึ้น และทันสมัยขึ้น ใครที่กำลังหาไอเทมไปทำงานที่ไม่จำเจ บอกเลยว่าต้องหามาลองใส่

• เสื้อเบลเซอร์ตัวใหญ่ กับกางเกงยีนส์
  ส่วนใครที่อยากได้ลุคสาวทำงานที่ดูชิลล์ๆ ไม่เป็นทางการเกินไป ลองแมตช์ลุคนี้ดู รับรองไม่ผิดหวัง โดยใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ก่อนสวมทับด้วยเบลเซอร์โอเวอร์ไซส์ และรองเท้าผ้าใบเท่ๆ เท่านี้ก็จะทำให้ได้ลุคที่ดูสบายๆ ผสมกับลุคสาวทำงานลุยๆ ออฟฟิศไหนที่ไม่เคร่งเรื่องการแต่งตัวมากนัก ก็จัดลุคนี้กันได้เลย

• ชุดเดรส
  ใครมีเดรสสวยๆ ลองหยิบเดรสตัวเก่งมาแมตช์ลุคสาวทำงานชิคๆ กันหน่อยดีกว่า ซึ่งหากใส่แต่เดรสอย่างเดียวยังดูไม่เป็นเวิร์คกิ้งวูแมนเท่าที่ควร ก็ลองหาเสื้อเบลเซอร์ตัวโคล่งมาสวมทับดู จากลุคหวานๆ ก็จะกลายเป็นลุคสาวเฟี๊ยสประจำออฟฟิศขึ้นมาในทันตาเลยล่ะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูนะ สวยเท่แบบมีคาแรคเตอร์ ต้องยกให้แฟชั่นสไตล์นี้เลย

             เสื้อผ้าแต่ละสไตล์ แต่ละแบบ ต่างก็มีวาระและโอกาสที่เหมาะสมในการนำมาใส่ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับการแต่งตัวไปทำงานในทุกๆ วัน แม้ว่าเราจะต้องการความน่าเชื่อถือ หรือความเป็นทางการ แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยน และใส่ความเป็นแฟชั่นเพิ่มเข้าไปได้ เพื่อให้ลุคไปทำงานแบบเดิมๆ ดูน่าสนใจขึ้น และยังได้แต่งตัวไปทำงานอย่างสนุกขึ้น ถือเป็นอีกแรงผลักดันที่ทำให้การไปทำงานไม่น่าเบื่อจนเกินไป

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

             ซัมเมอร์มาแล้ว สาวสุดชิคห้ามพลาดเด็ดขาด กับแว่นกันแดดที่จำเป็นต้องมีติดตัว เพราะเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่จะช่วยถนอมสายตาเวลาโดนแดดจัดๆ แถมยังเป็นพร็อบถ่ายรูปเก๋ๆ ได้ด้วย เรียกว่าเหมาะมากๆ กับอากาศของประเทศไทย ซึ่งแว่นกันแดดสมัยนี้ก็ออกแบบมาหลายสไตล์จนเลือกไม่ถูก แต่จะมีแบบไหนบ้างที่ฮิตติดเทรนด์ ลองตามไปดูกันเลย

Classic Aviators
สไตล์แรก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบใส่อะไรที่ดูแฟชั่นเกินไป นั่นก็คือ แว่นคลาสสิคตลอดกาลอย่างทรง Aviator ซึ่งเป็นแว่นตาทรงเก๋สุดๆ มีมานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยตกเทรนด์เลย ยังฮิตอยู่เสมอ เพราะใส่ง่าย เข้าได้กับทุกชุด จะเลือกใส่แบบเรียบๆ หรือจะเพิ่มลูกเล่นด้วยเลนส์สีต่างๆ ก็เท่ไม่แพ้กัน

Colorful Lenses
สำหรับใครที่ไม่ชอบความคลาสสิค แต่ต้องการอะไรที่ดูสนุกขึ้น เราขอนำเสนอแว่นกันแดดเลนส์สีสัน อย่าง Colorful Lenses ที่ตอนนี้มีออกมาขายกันหลายแบบหลายสไตล์มากๆ เพราะใส่แล้วให้ลุคแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่า สะใจสายแซ่บแน่นอน

Itty Bitty Rectangles
มาต่อกันที่แว่นกันแดดสไตล์ Itty Bitty Rectangles หรือแว่นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ให้กลิ่นอายความวินเทจ ซึ่งเรามักได้เห็นเหล่านางแบบชอบใส่กันสุดๆ จึงทำให้แว่นทรงนี้มาแรงมากๆ ส่วนใครที่ยังลังเลว่าใส่แล้วจะรอดเหมือนนางแบบเค้าหรือเปล่า ก็คงต้องลองแล้วล่ะ

Shield Sunnies
Shield Sunnies เป็นแว่นกันแดดที่ตรงกันข้ามกับทรง Itty Bitty Rectangles เป็นอย่างมาก เพราะแว่นทรงนี้เป็นแว่นกันแดดทรงใหญ่ ให้ความรู้สึกสปอร์ตหน่อยๆ คล้ายแว่นเล่นสกี กินเนื้อที่บนหน้าเกือบจะครึ่งหน้า ถือเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่บรรดาเซเล็บคนดัง ต่างหยิบมาใส่เพิ่มความเก๋กันอยู่บ่อยๆ

Chained Up
สุดท้าย เป็นแอคเซสเซอรี่สำหรับแว่นกันแดด เมื่อมีแว่นตาคู่ใจแล้ว ก็ลองเอาสายคล้องแว่นเก๋ๆ มาแมตช์ให้ดูชิคขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งปัจจุบันสายคล้องแว่นก็มีหลายแบบหลายสไตล์ให้เลือกตามความต้องการ ส่วนใครที่บอกว่าสายคล้องแว่นใส่แล้วจะดูแก่เหมือนพวกคุณยายคุณป้า ขอบอกเลยว่าไม่จริงนะ เพราะเทรนด์นี้กำลังมาแรงสุดๆ

                เป็นยังไงกันบ้าง กับเทรนด์แว่นตากันแดดแบบต่างๆ ที่เราได้เอามาฝากกันในวันนี้ นอกจากการเลือกเสื้อผ้าแล้ว การเลือกพร็อบมาใส่เพิ่มเติมอย่างแว่นกันแดด ก็จะช่วยให้ลุคการแต่งตัวของเราดูเก๋ขึ้นไปได้อีก ฉะนั้นเราสามารถเลือกแว่นแบบที่ใช่ และสไตล์ที่ชอบ ไปปรับใช้กับตัวเองได้เลย

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

                ความยาวของกางเกงกับส่วนสูงของตัวเรา บางครั้งมันก็ไม่ค่อยจะพอดีกัน โดยเฉพาะความยาวของขากางเกงยีนส์ ที่มักจะยาวเกินพอดีอยู่บ่อยๆ จะเอาไปตัดทิ้งก็กลัวเสียทรง แต่ทางออกก็ยังมี นั่นคือ การพับขากางเกงในแบบต่างๆ ซึ่งทำให้เราได้สนุกไปกับแฟชั่นเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีพับแบบไหนได้บ้าง

เทคนิค 1 : พับทบเดียว ไม่สูงมาก
พับให้มีความสูงแค่ประมาณ 1 นิ้ว เป็นการพับที่เติมเต็มลูกเล่นเล็กๆ ให้กับลุคการแต่งตัว เทคนิคนี้เหมาะมากที่จะได้อวดรองเท้าคู่เก่ง ด้วยวิธีการพับที่ไม่โดดเด่นเกินไป ความยาวของกางเกงก็ไม่ยาวเกินไป รองเท้าที่เป็นตัวเอกจึงโดดเด่นได้เต็มที่ หรือวันไหนที่อยากให้ลุคการแต่งตัวดูขี้เล่นมากขึ้น เทคนิคนี้ก็พร้อมจะปรับลุคให้ดูสบายๆ ขึ้นได้

เทคนิค 2 : พับทบเดียว แต่สูงหน่อย
เทคนิคการพับแบบนี้ ใครเป็นสายวินเทจหรือสายนักบิด จะต้องคุ้นชินแน่นอน ยิ่งถ้าใครชอบใส่รองเท้าบู๊ท การพับขากางเกงระดับนี้ ก็เป็นเหมือนลูกเล่นระหว่างกางเกงกับรองเท้าได้อย่างลงตัว หรือจะเลือกใส่เป็นรองเท้าผ้าใบทรงวินเทจก็เข้ากันได้ดี

เทคนิค 3 : พับแบบโอเวอร์ไซส์บิ๊ก
เป็นเทรนด์การพับขากางเกงยีนส์อีกแบบ ที่เหล่าคนชอบแต่งตัวหลายคนนิยมพับกันแบบนี้ นั่นคือการพับขาสูงเกินกว่า 4-5 นิ้วไปเลย ถ้ากางเกงใครยาวเวอร์ๆ การพับขากางเกงแบบนี้จะเหมาะมาก เพราะถ้าพับเล็กๆ ก็คงจะหนาเตอะแน่ๆ การพับแบบนี้นอกจากจะไม่ดูเนิร์ดแล้ว ยังดูเก๋อีกด้วย

เทคนิค 4 : พับสองทบ
ใครที่ชื่นชอบความเรียบง่าย ไม่โดดเด่น แต่กางเกงยาวเกิน แนะนำว่าให้พับขากางเกง 2 ทบ สูงแค่ประมาณ 1-2 นิ้ว เพื่อไม่ให้ดูใหญ่ และหนาจนเกินไป ทำให้ลุคการแต่งตัวดูไม่แพง วันไหนอยากได้ลุคชิลล์ๆ ไม่ทางการมาก การพับขากางเกงแบบนี้ก็ถือว่าใช้ได้

เทคนิค 5 : ม้วนแทนการพับ
เทคนิคสุดท้าย เป็นการพับขากางเกงแบบไม่ตั้งใจพับ หรือจะใช้การม้วนแทนการพับไปเลยก็ได้ แนะนำให้พับขากางเกงขึ้นไปก่อน 1 ทบ หลังจากนั้นจับปลายขากางเกงให้พอดีข้อเท้า แล้วค่อยพับขึ้นไปอีกต่อ หลังจากนั้นก็จัดทรงไม่ให้ดูเรียบร้อยเกินไป แค่นี้ก็ได้ลุคเซอร์ๆ แล้ว

                ใครที่กำลังอยากสนุกกับกางเกงยีนส์ตัวโปรดให้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปตัดขากางออกให้เสียทรง หรือเสียเงินซื้อกางเกงตัวใหม่ ก็ลองนำเทคนิคการพับขากางเกงเหล่านี้ไปลองใช้กันดูได้นะ

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

              และแล้วฤดูร้อนอันแสนสดใสก็กลับมาอยู่กับพวกเราอีกจนได้ และก็แน่นอนว่าจะต้องมาอยู่อีกพักใหญ่ๆ เลยล่ะ เพราะบ้านเรามันเมืองร้อนตัวจริง วันนี้เลยจะชวนทุกคนมาสร้างสีสันให้ซีซันนี้ ด้วยการแต่งตัวรับซัมเมอร์ เพราะหน้าร้อนแบบนี้จะมาแต่งตัวทึมๆ มันไม่ได้ ต้องทำตัวให้สดใสเข้าไว้ จะได้รู้สึกสดชื่นอยู่ตลอดยังไงล่ะ ว่าแต่ควรแต่งแบบไหนบ้าง มาดูกันเลยดีกว่า

1. สีสด

วิธีการแต่งตัวรับซัมเมอร์ที่ง่ายสุด ก็แค่หาเสื้อยืด หรือเสื้อเชิ้ตสีพื้นสักตัว มาจับคู่กับกางเกงยีนหรือกางเกงขาสั้นคูลล์ๆ ก็พร้อมลุยทุกสถานการณ์แล้ว แต่ห้ามเลือกสีขาวสีดำ หรือสีเอิร์ธโทนเด็ดขาด เพราะถ้าเลือกจะใส่เสื้อแบบไม่มีลาย ก็ต้องขอเป็นสีเจ็บๆ แซ่บๆ เท่านั้น

• ลายดอก

ฤดูร้อนกับดอกไม้นับเป็นของคู่กัน ฉะนั้นถ้าไม่รู้จะแต่งตัวยังไง แนะนำให้หยิบเดรสลายดอกไม้ออกมาใส่ในช่วงนี้ได้เลย แต่ลายดอกไม้ไม่ต้องใหญ่หรือสีแจ๊ดมากก็ได้นะ ไม่งั้นอาจจะดูเป็นคุณป้าได้

• สีหวาน

สำหรับสาวมั่น ที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเข้าห้องน้ำบ่อย ขอแนะนำเป็นจัมพ์สูทเลยจ้ากำลังฮิตมาก โดยอาจจะเลือกใส่เป็นลายดอก หรือถ้ายังไม่กล้าพอ จะเลือกสีเลือกลายแบบซอฟต์ๆ ไปก่อนก็ได้

• สีพาสเทล
  สีพาสเทลเป็นสีที่เข้ากันได้ดีทั้งกับสายหวานและสายติสต์ ยิ่งถ้าเป็นแนวติสต์นี่ยิ่งเข้ากันมากกับลายมัดย้อมสีพาสเทล แต่ถ้าไม่อยากติสต์ถึงขั้นนั้น ก็เลือกลายเบาๆ ได้ฟีลสาวอินดี้แต่ก็ยังดูหวานละมุน โดยจะเลือกใส่ทั้งชุดก็ได้ หรือจะหยิบมาแมตช์กับยีนส์เก๋ๆ สักตัว ก็ไม่ติดเหมือนกัน

• สีรุ้ง

จัดว่าเป็นไฮไลต์ของการแต่งตัวซีซั่นนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับเสื้อผ้าสีรุ้ง เพราะนี่คือสัญลักษณ์ของความสดใสอย่างแท้จริง ถ้าแค่สีสองสีมันไม่สะใจ ก็จัดไป 7 สี เลยแล้วกัน! สวยโดดเด่นแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นเสื้อครอปหรือสายเดี่ยวด้วย สายแซ่บยิ่งไม่ควรพลาด

              ถ้าใครได้ลองแต่งตัวตามนี้ บอกได้คำเดียวเลยว่าซัมเมอร์นี้จะไม่แพ้ความร้อนแรงของแดดอย่างแน่นอน โดยเอาการแต่งตัวเก๋ๆ นี่แหละ เข้าสู้ ประกาศให้โลกรู้กันไปเลย เราฮอตกว่าอากาศ แต่ก็อย่ามัวแต่คิดถึงความสวยจนลืมความสบายตัวล่ะ ไม่งั้นถ้าร้อนเหนียวหนับแล้วจะพาลหงุดหงิดเอาได้ แล้วจะหาว่าไม่เตือนนะ

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

             นอกจากเสื้อผ้าหน้าผมจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสาวๆ แล้ว อีกไอเทมหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ รองเท้า ซึ่งจะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดี แถมยังช่วยดูแลเท้าของเราได้อีกด้วย แต่หลายๆ คนอาจจะใส่รองเท้าแบบเดิมซ้ำๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะแต่งตัวแบบไหน หรือมีรองเท้าคู่เก่งแค่ไม่กี่คู่ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำรองเท้าผู้หญิง 4 สไตล์ ที่สาวๆ ควรมี เพื่อชีวิตที่ดี๊ดีของทุกคนจ้า

1. รองเท้าส้นสูง
   แบบแรกที่ควรมี คือ รองเท้าส้นสูง เพราะมันจะช่วยเสริมบุคลิกของเราให้สูงเพรียว และดูเป็นคนมั่นใจ รองเท้าส้นสูงเหมาะกับการใส่ไปทำงาน หรือไปพบปะคนสำคัญ เช่น ลูกค้า ผู้บริหาร รวมถึงใส่ออกงาน ทั้งงานที่เป็นทางการ และงานปาร์ตี้ การเลือกรองเท้าส้นสูงนั้นไม่ควรแค่เลือกแค่ดีไซน์ที่สวยถูกใจ แต่ควรเลือกจากการใส่สบายเท้าด้วย เพราะหากใส่แล้วเดินลำบาก แทนที่จะดูสวยอย่างมั่นใจ กลับกลายเป็นเสียบุคลิกเอาได้

• รองเท้าส้นเตารีด
  อีกหนึ่งสไตล์ที่ควรมี คือ รองเท้าส้นเตารีด เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสูงและความใส่สบาย ใครต้องการเพิ่มความสูงเพื่อให้มั่นใจมากขึ้น แต่ไม่ค่อยถนัดการใส่ส้นสูงแหลมๆ บอกเลยว่ารองเท้าส้นเตารีดนี่แหล่ะเหมาะสุดๆ รองเท้าแบบนี้เหมาะกับวันที่เราต้องเดินเยอะ และยังต้องการเสริมบุคลิกไปพร้อมๆ กัน แต่ควรเลือกดีไซน์ที่ด้านหน้าเท้าเป็นแบบเปิด โดยจะเป็นสายไขว้ หรือสายคาดก็ได้ เพราะจะช่วยทำให้เท้าดูไม่ตันจนเกินไป

• รองเท้าผ้าใบ

สำหรับสาวสายชิลล์ ชอบอะไรสบายๆ ต้องไม่พลาดที่จะมีรองเท้าผ้าใบติดตู้เอาไว้ เพราะรองเท้าผ้าใบนั้นใส่ได้หลายโอกาส ทั้งใส่ไปทำงาน ใส่ไปเที่ยว ก็ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อีกทั้งดีไซน์ของรองเท้าผ้าใบนั้นก็มีหลากหลายมากๆ หากเป็นสายสปอร์ตลุยๆ ลองเลือกเป็นรองเท้าผ้าใบแบบกีฬา ดีไซน์เท่ๆ แต่หากเป็นสายหวาน ก็เลือกรองเท้าผ้าใบปักลายดอกไม้สวยๆ หรือแบบลูกไม้หวานๆ ก็มีเช่นกัน

• รองเท้าแตะ

ปิดท้ายด้วยรองเท้าสารพัดประโยชน์อย่าง รองเท้าแตะ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต้องมีเอาไว้ใส่อยู่บ้านกันอยู่แล้ว แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป รูปแบบของรองเท้าแตะก็เปลี่ยนไปด้วย เพราะรองเท้าแตะยุคนี้ ดีไซน์สวยๆ เยอะมาก ทั้งยังมีหลากหลายวัสดุ เราสามารถเลือกแบบที่เหมาะกับโอกาสที่จะใส่ได้เลย โดยหากใส่ไปทำงาน ลองเลือกที่เป็นวัสดุหนังเทียม แต่หากไปเที่ยวลุยๆ ของบอกว่ารองเท้าแตะแบบรัดส้นตอบโจทย์มากๆ

อ่านมาถึงตรงนี้ก็หวังว่าสาวๆ จะได้ไอเดียไปใช้ในการเลือกซื้อรองเท้ามาใส่กันมากขึ้นนะ

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

              สำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับคำว่า Scraft ต้องขออธิบายก่อนว่า Scraft นั้นก็คือ ผ้าผืนใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส โดยจะมีทั้งแบบสีพื้น และแบบมีลวดลาย ที่สำคัญเป็นไอเทมที่สามารถเอามาแปลงเป็นเครื่องแต่งกายได้เก๋มากๆ เลยทีเดียวทั้งยังสามารถหยิบออกมาแมตช์ได้หลายสไตล์ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สาวเปรี้ยวจะต้องมีติดตู้

             ใครอยากได้ลุคเซ็กซี่ร้อนแรงง่ายๆ แบบไม่ต้องลงทุนเยอะ ก็แค่หยิบผ้า scraft มามิกซ์แอนด์แมตช์ครีเอทลุคแซ่บๆ กันได้เลย แต่ถ้าใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะแมตช์ยังไงได้บ้าง วันนี้เรามีตัวอย่างมาให้ดูกันจ้า

1. ผูกเป็นเกาะอก
   วิธีนี้เราน่าจะได้เห็นกันบ่อยที่สุด กับการหยิบผ้ามาพับเข้ามุมให้กลายเป็นสามเหลี่ยม แล้วจับผ้าให้มุมแหลมอยู่ด้านล่าง จากนั้นก็ให้นำมาผูกเป็นเกาะอก เพียงเท่านี้ก็ได้ลุคสุดเก๋แถมแซ่บสุดซอย เรียกว่าเป็นลุคที่ทำได้ง่ายที่สุดแล้ว

• ผูกเป็นผ้าคาดอก
  สำหรับใครต้องการความเรียบง่ายแต่เก๋ แถมทำได้ไม่ยากเลย แนะนำให้คาดอกเป็นแบบธรรมดา แต่ความยากจะมากกว่าแบบแรกขึ้นมาอีกนิด เพราะต้องพับเก็บชายผ้าเข้ามาให้เป็นทรงเรียบๆ เหมือนเกาะอกทั่วไป ถือเป็นอีกหนึ่งการสไตล์ที่ทำง่าย ใครชอบแนวเรียบง่าย หยิบ Scraft มาแมตช์เป็นแบบนี้ก็น่ารักไม่เบา

• เกาะอกผูกปมด้านหน้า
  เกาะอกแบบนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถทำได้ด้วยการหยิบผ้ามาผูกโบว์ หรือมัดเป็นปมเอาไว้ด้านหน้า แล้วเหลือชายให้ยาวออกมาหน่อย ลุคนี้แนะนำว่าให้ใส่บราปีกนกเอาไว้ข้างใน รับรองแซ่บพริกยกสวนแน่นอน

• ผูกเป็นเข็มขัด
  ถ้าเบื่อกับการใส่เป็นเสื้อแล้ว ขอแนะนำว่าให้หยิบมาคาดเป็นเข็มขัดแทน เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนให้ลุคสุดแสนธรรมดาดูชิคขึ้นมาได้ในทันที แค่ม้วนผ้าหรือพับให้เป็นแนวยาว และนำมาสอดเข้ากับหูกางเกงเหมือนเข็มขัดทั่วไป จากนั้นก็มัดปมไว้ด้านหน้า ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย นอกจากนี้ก็ยังสามารถหยิบมาแต่งได้อีกหลายลุคเลย ไม่ว่าจะเป็นผ้าผูกผม ผ้าผูกเอว หรือใช้คลุมไหล่เป็นต้น

              ได้ไอเดียกันไปแล้วก็อย่าลืมไปหาผ้าสวยๆ ในแบบที่ชอบมาลองมิกซ์แอนด์แมตช์กันสักผืนล่ะ รับรองว่าใช้ได้คุ้มเกินคุ้มแน่นอน เพราะในความเป็นจริงแล้ว Scraft ยังสามารถเอามาแต่งได้อีกหลายแบบมากๆ รับรองว่าหากมีติดตู้ไว้ จะสามารถแต่งตัวได้ไม่มีเบื่อเลยซักวัน 

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

                หากพูดถึงไอเทม เสื้อเกาะอก หลายคนคงจะนึกถึงลุคการแต่งตัวแบบแซ่บๆ ที่สาวๆ ทั่วไปอาจไม่ค่อยมีติดตู้กันซักเท่าไหร่ เพราะถึงแม้อยากจะแต่ง แต่บางทีก็กลัวว่าจะดูโป๊เกินไป ใส่แล้วไม่ค่อยมั่นใจ จะใส่ได้ก็แค่ตอนไปทะเลเท่านั้น แต่ขอบอกเลยว่าเกิดมาเป็นสาวยุคนี้ต้องทำตัวมั่นๆ เข้าไว้มันถึงจะเกิด วันนี้เราเลยรวบรวมไอเดียแมตช์เสื้อเกาะอกหลายๆ แนวมาให้สาวๆ ได้เอาไปลองแต่งตามกันดู ซึ่งก็มีตั้งแต่ลุคแอบแซ่บฉบับอนุบาล ไปจนถึงแซ่บพริกยกสวน กันเลยทีเดียว

1. ลุคแอบแซ่บ

มาเริ่มกันที่ลุคแซ่บเบาๆ ก่อน สำหรับสาวๆ ที่เพิ่งเริ่มใส่เสื้อเกาะอก และยังไม่ค่อยมีความมั่นใจซักเท่าไหร่ หรือจะเรียกว่าเป็นลุคแอบแซ่บก็ได้ โดยสาวๆ ที่ยังไม่อยากใส่แค่เสื้อเกาะอกตัวเดียว ก็อาจจะลองหาเสื้อคลุมอย่าง แจ็คเกต เบลเซอร์ หรือเสื้อเชิ้ตทรงโอเวอร์ไซส์ มาใส่คลุมทับเพื่อแก้เขินกันไปก่อนก็ได้ แค่นี้ก็จะได้ลุคที่ดูเก๋ แอบแซ่บ แต่ก็มีสไตล์ไม่เบาแล้ว

• ลุคแซ่บเล็กๆ
  มาต่อกันที่ลุคแซ่บเล็กๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มดีกรีความแซ่บขึ้นมาอีกขั้นสำหรับสาวๆ ที่อยากใส่เกาะอกแต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเปิดหมด จะใส่เสื้ออื่นทับก็ดูจะเยอะเกินไป ถ้างั้นก็ลองเปลี่ยนมาเป็นผ้าคลุมไหล่ดูสิ ลุคนี้นอกจากได้ความแซ่บเล็กๆ แล้ว ยังแอบดูแพงอีกด้วยนะ

• ลุคแซ่บกลางๆ
  แล้วก็มากันที่ลุคแซ่บกลางๆ สำหรับสาวๆ ที่เริ่มปลดล็อคตัวเองจากความเขินอายได้แล้ว ลองหาเสื้อเกาะอกที่มีความยาวลงมาหน่อย แล้วเอามาแมตช์กับกระโปรง กางเกงขาสั้น กางเกงขายาว หรือจะเป็นกางเกงแนว Sweat pants ก็ได้ลุค Sporty Girl ที่ดูเท่ห์ไปอีกแบบ แต่ความแซ่บก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย

• ลุคแซ่บพริกยกสวน
  และสุดท้าย สำหรับสาวๆ ที่ได้ชื่อว่าแซ่บปรอทแตก ที่พกพาความมั่นกันมาเกินร้อย ก็ต้องเป็นลุคแซ่บพริกยกสวนเท่านั้น ใครรู้ตัวว่าเข้าข่ายนี้ ลองหาเสื้อเกาะอกตัวจิ๋วๆ เพื่อเผยผิวกันไปเลยแบบแซ่บๆ แล้วมาแมตช์กับกางเกง หรือกระโปรงตัวโปรด แค่นี้ก็แซ่บสุดๆ แล้ว

              ได้เห็นตัวอย่างกันไปแบบนี้แล้ว หวังว่าสาวๆ ที่อยากจะแต่งตัวแซ่บๆ ด้วยไอเทมเกาะอก น่าจะพอมีแรงบันดาลใจให้กล้าลุกขึ้นมาแต่งตัวแซ่บๆ ในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึงทริปไปเที่ยวทะเลก็ฮอตได้

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

                 วันนี้ขอเอาใจสายคาเฟ่ที่ชอบถ่ายรูป กับไอเดียแต่งตัวไปคาเฟ่ ว่าควรจะเลือกสีชุดยังไงดี เพราะเชื่อหลายคนน่าจะเคยเจอกับปัญหาคิดไอเดียชุดที่จะใส่ไม่ออก ทั้งๆ ที่มีเสื้อผ้าอยู่เต็มตู้ บอกเลยว่าแค่การเลือกสีชุดก็ช่วยให้ได้รูปสวยได้ง่ายๆ งานนี้จะต้องเลือกสีชุดยังไง ลองมาดูตัวอย่างกันเลย

1. เน้นกลมกลืน – เลือกสีชุดเข้ากับโทนสีร้าน
   ก่อนจะแต่งตัวออกจากบ้าน ก็ต้องทำการบ้านกันสักนิด เริ่มจากการที่เราต้องดูก่อนว่าร้านที่จะไปนั้นเค้าตกแต่งในโทนสีอะไร หรือมีจุดเด่นอะไรเป็นหลัก จากนั้นก็หาชุดที่มีโทนสีแมตช์กับสีของร้าน โดยอาจจะเลือกเสื้อที่สีเข้ากับประตูร้าน หรือกางเกงที่สีเข้ากันกับมุมถ่ายรูปเด่นๆ ของร้านก็ได้ เท่านี้รูปออกมาสวยเข้ากั๊นเข้ากันสุดๆ

• เน้นโดดเด่น – เลือกสีชุดตัดกับโทนสีร้าน
  ส่วนใครที่ไม่ได้อยากคุมโทน แต่อยากสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง ก็แหวกโทนมันไปเลย ด้วยการหาชุดที่สีสันตัดกันกับร้านมาใส่ เท่านี้ก็จะได้ฟีลสดใส สวยเก๋ไปอีกแบบ ซึ่งการเลือกสีชุดที่ตัดกันกับร้านจะเหมาะกับคาเฟ่ที่มีสีสันจัดจ้านเป็นจุดเด่นชัดเจน บอกเลยว่าใส่สีตัดกัน จะช่วยให้ได้รูปสวยสะดุดตาแน่นอน

• เซฟสุด – เลือกชุดสีขาว
  ถ้าคิดอะไรไม่ออก ให้หยิบสีขาวมาใส่ไว้ก่อน เพราะชุดสีขาว ใส่เมื่อไหร่ตอนไหนก็รอด ไม่ว่าจะไปคาเฟ่โทนไหนสไตล์ไหน ก็รอดหมดแน่นอน อย่างถ้าเป็นคาเฟ่ในโทนหวานๆ การหยิบเดรสสีขาวมาใส่ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความละมุนได้แบบสุดๆ

• เข้าได้ทุกที่ – เลือกชุดสีมินิมอล

หากจะพูดถึงสีเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูสวยแพงได้ง่ายๆ แม้ไม่ต้องแต่งอะไรเยอะ ก็ต้องยกให้โทนสีสไตล์มินิมอลอย่าง อย่าง สีครีม-ขาว เลย ซึ่งนอกจากจะเป็นสีที่แต่งง่าย จับแมตช์กับอะไรก็ได้แล้ว ยังเป็นสีที่ให้ลุคแบบคุณหนูๆ สไตล์สาวเกาหลี แถมยังใส่ไปไหนก็เข้าได้ทุกที่ทุกโอกาสอีกด้วย ใครยังไม่มีเสื้อผ้าสีโทนนี้ ต้องรีบไปหามาสต็อกไว้ในตู้เสื้อผ้ากันด่วนๆ

              เราเข้าใจดีว่าการไปคาเฟ่ของสาวที่รักการถ่ายรูปนั้น ทุกคนย่อมอยากจะได้รูปที่ปังที่สุด ซึ่งนอกจากต้องมีมุมถ่ายรูปที่ดีแล้ว เรื่องของเสื้อผ้าก็จำเป็นเช่นกัน ฉะนั้นใครยังไม่มีไอเดีย ก็สามารถทำตามคำแนะนำนี้ได้เลย

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

               เกิดเป็นสาวขาใหญ่มันน่าปวดใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะหาเสื้อผ้าใส่ยากแล้ว อยากจะแต่งตัวเซ็กซี่โชว์ขาเหมือนใครๆ เขาก็ลำบาก หลายคนถึงขั้นไปรีดน้ำหนักเพื่อลดสัดส่วน แต่ก็มีบางคนที่ลดต้นขาลงยากเหลือเกิน แต่สาวขาใหญ่ทั้งหลายอย่าเพิ่งท้อไป แม้จะลดขาไม่ได้ แต่เราก็หันมาใช้วิธีเปลี่ยนการแต่งตัวเพื่อช่วยอำพรางขาแทนได้ จะต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกันเลย

1. เลือกใส่กางเกงสีดำ หรือสีเข้มๆ ไว้ก่อน
   การเลือกใส่กางเกงสีดำ หรือสีทึบๆ เข้มๆ จะช่วยอำพรางขาใหญ่ๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะสีแบบนี้จะช่วยปกปิดช่วงขา ทั้งยังหลอกตาว่าขาเรียวได้ดีเลยล่ะ

• เลือกใส่กางเกงทรงขาบาน
  หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า การใส่กางเกงทรงขาบานจะยิ่งทำให้ขาของเรายิ่งดูใหญ่ขึ้น แต่แท้ที่จริงแล้ว กางเกงทรงขาบาน จะยิ่งทำให้ช่วงขาดูเพรียวขึ้นต่างหากนะขอบอก

• เลือกใส่กางเกงเอวสูงๆ ดีกว่ากางเกงเอวต่ำๆ

นอกจากเรื่องของขากางเกงแล้ว ตำแหน่งของเอวกางเกงก็มีส่วนเหมือนกันนะ ยิ่งเป็นกางเกงเอวสูง ก็จะยิ่งทำให้ดูขายาวเรียวขึ้น ทั้งยังช่วยอำพรางต้นขาให้ดูเล็กลงได้อีกด้วย

• เลือกใส่กางเกงหรือกระโปรงยาว ที่มีผ่าด้านหน้าหรือด้านข้าง

ไอเทมกางเกงหรือกระโปรงยาว ที่ผ่าหน้าหรือผ่าข้าง นอกจากจะช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ได้แล้ว เวลาใส่เดินไปเดินมายังเผยให้เห็นช่วงขาเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งการเผยเรียวขาแบบนี้แหล่ะ ที่จะช่วยให้ขาดูเล็กกว่าเดิม

• ถ้าชอบใส่ขาสั้น ให้เลือกแบบที่ขากางเกงกว้างกว่าต้นขาของเรา

แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบใส่ชุดยาวๆ สักเท่าไหร่ หรืออยากใส่ขาสั้นให้สวยเหมือนคนอื่นเขาบ้าง แนะนำว่าให้เลือกกางเกงที่ช่วงขาหลวมกว่าต้นขาของเรา เพราะถ้าใส่แบบที่พอดีกับต้นขาเป๊ะๆ หรือรัดจนเกินไป ก็จะยิ่งทำให้ขาดูใหญ่กว่าเดิม

              นอกจากเคล็ดลับการเลือกเสื้อผ้าตามที่ได้แนะนำไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและจะลืมไม่ได้เลย ก็คือ รองเท้า ควรเลือกใส่รองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าที่มีส้นขึ้นมาสักหน่อย ห้ามใส่ส้นแบนเด็ดขาด เพราะรองเท้าส้นสูงๆ นั้นสามารถช่วยอำพรางได้ดี โดยจะทำให้ช่วงขาของเราดูยาวขึ้น รวมถึงทำให้ดูเล็กลงด้วย แต่ถ้าไม่อยากใส่สูงมากๆ จะลองหารองเท้าที่มีเสริมส้นสัก 1-2 นิ้วมาใส่ก็พอช่วยได้เหมือนกัน

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

            เสื้อผ้า สีแดง จะว่าแต่งยากก็ยาก แต่จะว่าแต่งง่ายก็ได้เหมือนกัน เพราะแฟชั่นนั้นเป็นเรื่องของความมั่นใจ ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าใส่ชุดสีแดงแล้วจะดูไม่สวย หรือดูเด่นเกินไป เพราะเสื้อผ้าสีแดงสามารถหยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์ได้สนุกไม่แพ้สีอื่นๆ ส่วนใครที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง วันนี้เราก็มีไอเดียแมตช์ชุดสีแดง ให้สวยแพง และดูมีคลาสมาฝาก

แดงกับดำ
ลุคที่แมตช์ได้เพอร์เฟกสุดๆ ก็คงต้องยกให้สีแดงกับสีดำ ฉะนั้นใครที่คิดอะไรไม่ออกว่าจะแต่งตัวยังไงดี ลองหยิบไอเทมสีแดงมาแมตช์กับสีดำได้เลย เพราะเป็นคู่สีที่อยู่ด้วยกันแล้วดูดี ดูแพง แถมแมต์ช์ง่ายมากๆ ด้วย

แดงกับยีนส์
ส่วนใครที่ไม่มีไอเทมสีดำ จะหยิบสีแดงมาแมตช์กับยีนส์ ก็สร้างลุคแพงๆ ได้เหมือนกัน แถมแอบมีสตรีทนิดๆ ด้วย อย่างที่รู้ๆ กันว่ายีนส์เป็นไอเทมที่จะหยิบสีไหนมาใส่คู่กันก็รอดหมด

แดงกับน้ำตาล
อีกหนึ่งสีที่เข้ากันได้ดีกับสีแดง ก็คือสีน้ำตาลแบบเอิร์ธโทน ที่มีความสวยคลาสสิคอยู่ในตัว ซึ่งเมื่อนำมาใส่คู่กัน จะยิ่งทำให้สีแดงดูสวยแพงมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

แดงกับแดง
สำหรับใครที่ชอบความโดดเด่นอยู่แล้ว จะใส่สีแดงทั้งตัวไปเลยก็เริ่ดไม่เบา จะเลือกเป็นแจ็คเก็ตกับกางเกง หรือกระโปรงสีแดงเข้ากันก็ได้ แต่ก็ถ้ากลัวจะดูร้อนแรงเกินไป ก็เบรกด้วยเสื้อสีขาวด้านในได้

เดรสแดง
ส่วนใครที่ชอบใส่เดรส การเลือกเดรสสีแดงมาใส่ แนะนำว่าให้เลือกเดรสที่มีดีเทลโดดเด่นสักหน่อย ไม่ดูเรียบจนเกินไป อาจจะเป็นลายผ้า หรือดีไซน์ที่มีลูกเล่นเก๋ๆ จะช่วยให้เดรสสีแดงดูน่าสนใจมากขึ้น

สูทแดง
หนึ่งไอเทมสีแดงที่ช่วยให้ลุคดูสวยแพงขึ้นได้ง่ายๆ ก็คือเสื้อสูท หรือเสื้อเบลเซอร์สีแดง แม้จะแต่งตัวชิลล์ๆ แค่สวมทับด้วยเบลเซอร์สีแดง ก็ช่วยให้ลุคดูแพงขึ้นมาแล้ว

            สำหรับใครที่ใจไม่กล้าพอจะหยิบสีเสื้อผ้าสีแดงสดๆ มาใส่ แนะนำว่าให้เลือกเป็นสีแดงเข้มๆ อย่างแดงเบอร์กันดี้แทน แค่นี้ก็ดูดี มีคลาสสุดๆ แล้ว เพราะสีแดงเข้มๆ จะให้ฟีลหรูดูแพง แบบไม่ต้องแต่งอะไรให้เยอะเลย รับรองเลยว่าหากใครได้ลองแมตช์เสื้อผ้ากันตามนี้ ไม่ว่าจะใส่ไปวันตรุษจีน วาเลนไทน์ คริสมาสต์ หรือแม้แต่วันธรรมดาๆ ก็สามารถสวยด้วยสีแดงอย่างมั่นใจกว่าเดิมแน่นอน

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

               ผ้าลินิน เป็นผ้าที่ทอด้วยเส้นใยของพืช อย่างป่าน ทำให้มีความนุ่มจากเส้นใยธรรมชาติ แต่ก็มีความแข็งแกร่ง ทนทาน ทั้งยังมีคุณสมบัติต้านทานต่อเชื้อรา และแบคทีเรียได้ดี เสื้อผ้าลินิน จึงมีเอกลักษณ์ตรงเนื้อผ้าที่ดูเบาบาง เป็นธรรมชาติ ไม่หนาเกินไป ใส่แล้วสบาย ไม่ร้อน จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์เสื้อผ้าต่างก็จับผ้าชนิดนี้มาออกแบบตัดเย็บ จนมีแบบ รูปทรง และสีสันมากมายให้ได้เลือกซื้อกัน และวันนี้เราจะพามาดูแฟชั่นผ้าลินินที่รับรองได้ว่าหากลองใส่แล้วต้องออกมาปัง และจะต้องติดใจแน่นอน

เสื้อ
อากาศแบบเมืองไทย เหมาะมากที่จะใส่เสื้อที่เป็นผ้าลินิน เพราะเนื้อผ้าไม่หนาไม่บางจนเกินไป ทั้งยังระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย ไม่ว่าจะเลือกใส่สีโทนร้อนหรือเย็นก็ได้ลุคที่สบายตา และเป็นธรรมชาติสุดๆ จะเป็นเสื้อตัวโคร่งใส่หลวมๆ, เสื้อเปิดไหล่, สายเดี่ยว หรือ เสื้อตัวยาวชายพลิ้วรับลมร้อนก็ดูมีสไตล์ไปทุกแบบ

กางเกง
นอกจากเสื้อลินินจะใส่สบายแล้ว กางเกงผ้าลินินก็ดีงามไม่แพ้กัน ด้วยความที่ผ้าลินินนั้นทอจากเส้นใยที่ให้ความรู้สึกลำลอง ไม่ทางการมาก แต่ก็สามารถใส่ไปทำงานได้ จะใส่ไปเที่ยวก็ดี เพราะใส่สบาย นุ่ม ทั้งยังให้ความรู้สึกที่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติไปในตัว

เดรส
อีกหนึ่งไอเทมผ้าลินินที่ขาดไม่ได้ก็คือ เดรส โดยเดรสที่ทำจากผ้าลินิน จะให้ผิวสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ แถมปัจจุบันนี้ก็มีแบบให้สาวๆ ได้เลือกซื้อกันมากมาย จะเป็นแบบเรียบๆ สไตล์มินิมอล หรือ เดรสผ้าลินินที่มีดีเทลเยอะๆ ก็ใส่ออกมาสวยเก๋ทั้งนั้น

เบลเซอร์
ใครว่าเบลเซอร์จะต้องเป็นผ้าหนาๆ เเข็งๆ เท่านั้น ลองดูเบลเซอร์ผ้าชนิดอื่น อย่างผ้าลินินเอาไว้ติดตู้สักตัวก็ดีไม่เบานะ เผื่อวันสบายๆ หรือวันไปทำงานที่ไม่อยากติดกับลุคที่ดูทางการ และน่าเบื่อ แล้วจะรู้เลยว่าเบลเซอร์ผ้าลินินก็ให้สไตล์ใหม่ๆ ที่สวยไม่แพ้แบบเดิมๆ

จัมพ์สูท
มาแรงไม่แพ้ไอเทมอื่นๆ สำหรับจั้มพ์สูทผ้าลินิ ซึ่งต้องบอกเลยว่ามันน่ารักมาก ไม่ว่าจะเป็นสีสันที่ดูพาสเทล หรือ เนื้อผ้าที่ดูดีเป็นธรรมชาติไม่ปรุงแต่ง งานดีขนาดนี้ไม่มีจั้มพ์สูทผ้าลินินติดไว้ก็ถือว่าพลาดมาก

              นอกจากจะสวยและใส่สบายแล้ว ข้อดีอีกอย่างหนึ่งสำหรับการดูแลเสื้อผ้าลินิน คือ สามารถตากกับแดดจัดๆ เปรี้ยงๆ แบบแดดเมืองไทยได้สบายๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผ้าชนิดนี้เกิดมาคู่กับแฟชั่นไทยชัดๆ

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

               ที่ใครๆ เค้าว่าเทรนด์แฟชั่นมาไวไปไวนั้นอาจไม่จริงเสมอไป เพราะเรากำลังจะพาไปดูไอเทมฮิตตลอดกาล กับเทรนด์การแต่งตัวยุค 90 ที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ยังใส่ได้ไม่เอาท์ แม้จะมีเทรนด์ใหม่ๆ สไตล์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย อย่างการแต่งตัวสไตล์มินิมอล หรือสไตล์สตรีท แต่เทรนด์การแต่งตัวสไตล์ยุค 90 ก็ยังคงอยู่ เรียกได้ว่าฮิตตลอดกาลที่แท้ทรู ใครสนใจอยากจะแต่งตัวเก๋ไก๋สไตล์ยุค 90 ให้ออกมาดูเริ่ดๆ ปังๆ ก็ตามมาดูกันเลยจ้า

กางเกงเอวสูง
ถ้าพูดถึงแฟชั่นยุค 90 สิ่งแรกเลยที่ทุกคนจะนึกถึง ก็คงหนีไม่พ้นกางเกงเอวสูง ที่มีทั้งแบบยีนส์เท่ๆ และแบบผ้าสีสันสดใส ให้กลิ่นอายความคลาสสิกได้เป็นอย่างดี แถมยังสามารถเก็บพุง อำพรางหุ่นให้สาวๆ เจ้าเนื้อได้ดีอีกด้วย หรือจะเพิ่มลูกเล่นด้วยเข็มขัดหนังสักเส้น ก็สวยเก๋ไม่เกรงใจใครเลยทีเดียว

มินิเดรส
การแต่งตัวสไตล์ยุค 90 ใช่ว่าจะฮิตกันแต่กางเกงซะเมื่อไหร่ ใครชอบแนวหวานซ่อนเปรี้ยว ก็ลองใส่เดรสสั้น หรือมินิเดรสกันดูนะ เพราะชุดแบบนี้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้สาวๆ ได้เป็นอย่างดี ใส่แล้วดูน่ารักเหมือนกลับไปเป็นเด็กยุค 90 ยังไงหยั่งงั้นเลยล่ะ

ชุดเอี๊ยม
ถ้าสาวคนไหนอยากได้ลุคน่ารัก คิวท์ๆ ใสๆ ก็ต้องรีบคว้าชุดเอี๊ยมมาใส่เลย ซึ่งก็มีทั้งแบบกระโปรง แบบกางเกง แบบขาสั้น และแบบขายาว จะแมตช์กับเสื้อโทนสีสดใส หรือจะใส่เป็นโมโนโทนไปเลยก็แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน

เสื้อคอปก
แล้วก็มาถึงอีกหนึ่งไอเทมที่ไม่ลับสำหรับการแต่งตัวสไตล์ยุค 90 นั่นก็คือ เสื้อคอปก ซึ่งถ้าใครใจถึงหน่อย จะใส่เป็นเสื้อคอปกปลดกระดุมซักเม็ดสองเม็ด เผยความเซ็กซี่เล็กๆ ก็ไม่ว่ากัน หรือจะใส่สเวตเตอร์ทับเสื้ออีกทีให้ดูคิวท์ๆ ก็น่ารักไม่เบา

หมวกบั๊กเกต
สำหรับวันไหนที่ทรงผมเกิดไม่เป็นทรง หรือไม่เป็นใจ วิธีการแก้ปัญหาง่ายๆ สไตล์แฟชั่นยุค 90 ก็คือการใส่หมวกทรงบั๊กเกตทับไปเลย เท่านี้ก็จะได้ลุคที่ดูเซอร์หน่อยๆ แต่รับรองว่าสวยเก๋ร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน

             เป็นยังไงกันบ้างกับไอเทมการแต่งตัวสไตล์ยุค 90 ที่เราเอามาฝากในวันนี้ ได้ความรู้สึกคลาสสิก และดึงความทรงจำเก่าๆ ดีๆ ในอดีตกลับมากันบ้างไหม สาวๆ คนไหนที่อยากได้ลุคคูลๆ เท่ๆ สวยแบบคลาสสิก แต่ไม่เชย ไม่เอาท์ ก็อย่าลืมเอาไปแต่งตามกันดูน้า รับรองปังแน่นอน

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

                การท่องเที่ยวสไตล์เดินป่า แคมป์ปิ้ง ถือว่าเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงมากๆ ในช่วงเวลานี้ และใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวป่า ปีนเขา หรือแคมป์ปิ้งชมทะเลหมอก วันนี้เราขอพามาส่องไอเดียแมตช์ชุดเที่ยวป่าแบบชิคๆ ดูมีสไตล์แบบนักท่องเที่ยวสายแฟกัน เพราะเรื่องของแฟชั่นนั้นสามารถตามไปอยู่ได้ในทุกสถานการณ์

               ถ้าพูดถึงป่า และภูเขาต่างๆ ก็ต้องนึกถึงสีเขียว ฉะนั้นการใช้สีเขียวจึงเป็นกิมมิคหนึ่งที่จะช่วยคุมโทนให้การแต่งตัวของเราเข้ากับธรรมชาติได้ดีมาก หรือจะลองเลือกสีแบบเอิร์ธโทน ก็นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่เข้ากับการเที่ยวป่าได้ดี อย่างสีน้ำตาล ส้ม ครีม สีไข่ที่ดูอบอุ่น แล้วแมตช์เข้ากับสีขาว แค่นี้ก็ได้ลุคเที่ยวป่าที่สุดชิคแล้ว

              อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่จะไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่อาจเกิดอันตรายได้ การที่ใส่เสื้อโทนที่กลืนไปกับป่า อย่างสีเขียว สีน้ำตาล ก็อาจทำให้การค้นหา หรือการมองเห็นมีความยากลำบากมากขึ้นด้วยเช่นกัน ฉะนั้นหากใครรู้ตัวว่ากำลังไปในสถานที่เสี่ยง ลองเลือกแมตช์เสื้อผ้าด้วยโทนสีขาว สีฟ้า ก็จะช่วยได้ หรือบางคนอาจเลือกใช้เป็นสีแซ่บๆ อย่างโทนนีออนไปเลยก็ได้ แต่ถ้าสถานที่ที่จะไปไม่ใช่ที่อันตราย ก็สามารถแมตช์เสื้อผ้าได้ตามใจชอบ

              นอกจากเสื้อผ้าชิ้นหลักแล้ว งานพรอพก็ควรต้องมี อย่างพวก หมวก และแจ็คเก็ตสีเข้าโทน ถ้าหากจะต้องขึ้นเขาสูงๆ ก็อย่าลืมพกแว่นกันแดดมาใส่ด้วย เพราะนอกจากจะช่วยกันแดดได้แล้ว ยังเสริมลุคให้ดูดีอีกด้วย อีกหนึ่งไอเทมเด็ดก็คือ รองเท้าบูท ด้วยความที่เราต้องเดินป่า ขึ้นเขาเป็นเวลานาน การใส่รองเท้าผ้าใบ อาจไม่รองรับเท้าที่จะต้องไปเจอพื้นที่ ที่ไม่เหมาะสม และอาจเกิดอันตรายได้

              สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเที่ยวป่า คือการแต่งตัวให้ทะมัดทะแมงที่สุด เช่น การใส่กางเกงยีนส์ นอกจากใส่แล้วเท่ ยังช่วยป้องกันเศษไม้ที่อาจบาดผิวได้ด้วย จากนั้นก็ลองหาแจ็คเก็ตเท่ๆ อย่างลายทหารมาสวมทับ ก็จะยิ่งเพิ่มลุคสุดเท่แถมยังมีประโยชน์อีกมาก ทั้งกันหนาว กันแดด กันลมที่จะต้องไปเจอ และไม่ควรใส่เครื่องประดับเยอะๆ แต่ควรมีสิ่งที่จำเป็น อย่างเช่น แว่น, หมวก, ผ้าพันคอ, ถุงมือ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และเป็นได้ทั้งแฟชั่นเก๋ๆ อีกด้วย

               นอกเหนือจากการเตรียมเสื้อผ้าและพรอพต่างๆ แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การดูแลตัวเองดีๆ ควรพกอุปกรณ์สำคัญในการเอาชีวิตรอดไปให้พร้อม จะได้อุ่นใจ  ทั้งไฟฉาย เข็มทิศ นกหวีด และอุปกรณ์จุดไฟ หากรู้จักวางแผนให้ดี แค่นี้ก็พร้อมไปเที่ยวป่ากันแบบชิคๆ แล้ว

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

                 วันนี้ขอเอาใจสายคาเฟ่ที่ชอบถ่ายรูป กับไอเดียแต่งตัวไปคาเฟ่ ว่าควรจะเลือกสีชุดยังไงดี เพราะเชื่อหลายคนน่าจะเคยเจอกับปัญหาคิดไอเดียชุดที่จะใส่ไม่ออก ทั้งๆ ที่มีเสื้อผ้าอยู่เต็มตู้ บอกเลยว่าแค่การเลือกสีชุดก็ช่วยให้ได้รูปสวยได้ง่ายๆ งานนี้จะต้องเลือกสีชุดยังไง ลองมาดูตัวอย่างกันเลย

1. เน้นกลมกลืน – เลือกสีชุดเข้ากับโทนสีร้าน
   ก่อนจะแต่งตัวออกจากบ้าน ก็ต้องทำการบ้านกันสักนิด เริ่มจากการที่เราต้องดูก่อนว่าร้านที่จะไปนั้นเค้าตกแต่งในโทนสีอะไร หรือมีจุดเด่นอะไรเป็นหลัก จากนั้นก็หาชุดที่มีโทนสีแมตช์กับสีของร้าน โดยอาจจะเลือกเสื้อที่สีเข้ากับประตูร้าน หรือกางเกงที่สีเข้ากันกับมุมถ่ายรูปเด่นๆ ของร้านก็ได้ เท่านี้รูปออกมาสวยเข้ากั๊นเข้ากันสุดๆ

• เน้นโดดเด่น – เลือกสีชุดตัดกับโทนสีร้าน
  ส่วนใครที่ไม่ได้อยากคุมโทน แต่อยากสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง ก็แหวกโทนมันไปเลย ด้วยการหาชุดที่สีสันตัดกันกับร้านมาใส่ เท่านี้ก็จะได้ฟีลสดใส สวยเก๋ไปอีกแบบ ซึ่งการเลือกสีชุดที่ตัดกันกับร้านจะเหมาะกับคาเฟ่ที่มีสีสันจัดจ้านเป็นจุดเด่นชัดเจน บอกเลยว่าใส่สีตัดกัน จะช่วยให้ได้รูปสวยสะดุดตาแน่นอน

• เซฟสุด – เลือกชุดสีขาว
  ถ้าคิดอะไรไม่ออก ให้หยิบสีขาวมาใส่ไว้ก่อน เพราะชุดสีขาว ใส่เมื่อไหร่ตอนไหนก็รอด ไม่ว่าจะไปคาเฟ่โทนไหนสไตล์ไหน ก็รอดหมดแน่นอน อย่างถ้าเป็นคาเฟ่ในโทนหวานๆ การหยิบเดรสสีขาวมาใส่ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความละมุนได้แบบสุดๆ

• เข้าได้ทุกที่ – เลือกชุดสีมินิมอล

หากจะพูดถึงสีเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูสวยแพงได้ง่ายๆ แม้ไม่ต้องแต่งอะไรเยอะ ก็ต้องยกให้โทนสีสไตล์มินิมอลอย่าง อย่าง สีครีม-ขาว เลย ซึ่งนอกจากจะเป็นสีที่แต่งง่าย จับแมตช์กับอะไรก็ได้แล้ว ยังเป็นสีที่ให้ลุคแบบคุณหนูๆ สไตล์สาวเกาหลี แถมยังใส่ไปไหนก็เข้าได้ทุกที่ทุกโอกาสอีกด้วย ใครยังไม่มีเสื้อผ้าสีโทนนี้ ต้องรีบไปหามาสต็อกไว้ในตู้เสื้อผ้ากันด่วนๆ

              เราเข้าใจดีว่าการไปคาเฟ่ของสาวที่รักการถ่ายรูปนั้น ทุกคนย่อมอยากจะได้รูปที่ปังที่สุด ซึ่งนอกจากต้องมีมุมถ่ายรูปที่ดีแล้ว เรื่องของเสื้อผ้าก็จำเป็นเช่นกัน ฉะนั้นใครยังไม่มีไอเดีย ก็สามารถทำตามคำแนะนำนี้ได้เลย

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

                เกิดเป็นสาวผิวขาวนั้นแสนจะโชคดี เพราะสามารถเลือกสีเสื้อผ้าได้ง่าย ที่ไม่ว่าจะหยิบชุดสีไหนมาใส่ก็ได้หมด แต่ใครว่ามีแต่สาวผิวขาวเท่านั้นที่จะแต่งตัวออกมาดูดี ขอบอกเลยว่ายุคนี้มันเป็นยุคของสาวผิวแทนแล้ว ฉะนั้นใครที่ไม่ได้เกิดมามีผิวขาวก็อย่าได้แคร์ เพราะสาวผิวแทนก็สวยปังได้ ขอแค่รู้จักเลือกโทนสีเสื้อผ้าให้เข้ากับผิวเท่านั้น สำหรับใครที่กลัวพลาด วันนี้เราจะมาแนะนำ 4 โทนสีชุดสุดปัง ที่จะช่วยขับผิวสีแทนให้สวยกว่าที่เคย จะปังแค่ไหน ลองไปดูกันเลยดีกว่า

1. โทนสีฟ้า/น้ำเงิน
   โทนสีแรกที่อยากจะแนะนำก็คือ โทนสีฟ้าและน้ำเงิน ซึ่งเป็นโทนสีที่ทำให้ผิวสีแทนดูสวยเจิดจ้าขึ้นมาได้มาก แต่ก็ต้องเลือกโทนที่ไม่หม่นจนเกินไป ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นกลืนกันไปหมด ลองเลือกเป็นชุดสีน้ำเงินโทนกลางๆ หรือจะเป็นลายน้ำเงินสลับขาวก็ได้ แล้วจะรู้ว่าออกมาปังแค่ไหน

• โทนสีส้มพีช
  ใครที่อยากให้การแต่งดูออกมาเป็นลุคเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ก็ลองจัดโทนสีส้มพีชดูสิ พูดเลยว่าเป็นสีผสมที่ลงตัวทั้งกับคนผิวขาวและผิวแทนเลยทีเดียว โดยโทนสีพีชจะคล้ายกับ สีโอลด์โรส คือเป็นสีส้มที่ผสมแดงนิดๆ อมชมพูหน่อย ๆ ดูมีมิติไปอีกแบบ เป็นอีกสีแนะนำที่สาวผิวแทนทุกคนควรต้องมีติดตู้ไว้

• โทนสีขาว/ดำ
  นับเป็นอีกหนึ่งโทนสีที่สาวผิวสีไหนใส่ก็รอด นั่นก็คือ สีขาวและสีดำ เพราะสีเบสิกทั้ง 2 สีนี้ ใส่ยังไงก็ออกมาดูดี เอาอยู่ทุกสถานการณ์ ถือเป็นโทนสีที่เซฟสุดสำหรับสาวผิวแทนที่ชอบความเรียบง่าย ไม่ชอบความยุ่งยากในการเลือกเสื้อผ้า

• โทนสีพาสเทล
  สุดท้าย ใครที่คิดว่าผิวสีแทนมีขีดจำกัดในการเลือกสี ขอบอกว่าไม่จริงเลย เพราะความจริงแล้วผิวแทนก็สามารถใส่เสื้อผ้าได้ทุกสีที่ต้องการ เพียงแต่ต้องปรับโทนสีให้ซอฟต์ลงมา ออกไปทางพาสเทล เพื่อให้ใส่แล้วมีผิวที่สว่างขึ้น

             จะเห็นได้ว่า สิ่งสำคัญของการเลือกเสื้อผ้าของสาวผิวแทนนั้น จริงๆ แล้วก็คือการเลือกโทนสีให้เหมาะนั่นเอง ใครที่เป็นสาวผิวแทนก็ลองนำเทคนิคทั้งหมดนี้ ไปใช้เลือกเสื้อผ้าในสไตล์ที่ชอบกันดูนะ เมื่อเลือกได้แล้ว ก็ใส่กันแบบมั่นใจไปเลย

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

              ถ้าจะถามถึงที่เที่ยวยอดฮิตของประเทศเมืองร้อน ที่มีพื้นที่ติดทะเลแบบบ้านเรา ก็คงจะหนีไม่พ้นชายหาด และเกาะต่างๆ เป็นแน่ ใครที่มีแพลนจะเที่ยวสถานที่เหล่านี้ เคยรู้สึกหนักใจกับการหาเสื้อผ้าเหมาะๆ มาใส่กันบ้างไหม เพราะถ้าเคยล่ะก็ วันนี้เรามีไอเดียการแต่งตัวไปเที่ยวทะเลสุดปัง ที่จะทำให้สาวๆ ได้รูปสวยๆ พร้อมกับยอดกดไลก์รัวๆ เลยทีเดียว ไปดูกันดีกว่าว่าต้องแต่งตัวยังไงกันบ้าง

1. เน้นสีสันสดใส
   ไปเที่ยวทะเลทั้งที ก็ต้องจัดชุดให้มีสีสันตัดกับสีน้ำทะเลซักหน่อย ซึ่งชุดสีสันสดใสนี้แหล่ะ ที่จะช่วยเพิ่มความน่ารักน่าสนใจให้กับรูปของเราได้ดีสุดๆ ยิ่งเป็นโทนสีที่ตัดกับสีของทะเล ท้องฟ้า และบรรยากาศรอบๆ ตัวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ชุดของเราดูเด่น ถ่ายรูปออกมามีแต่ปังกับปังแน่นอน

• แต่งโทนสีขาว-ครีม   
  ชุดเสื้อผ้าในโทนสีขาวครีม เป็นสีคลาสสิคที่เข้าได้กับทุกสถานที่ และทุกวาระโอกาสเลยก็ว่าได้ รวมถึงทะเลด้วย ซึ่งการแต่งตัวในโทนสีแบบนี้ นอกจากจะไม่ต้องคิดเยอะในการแมตช์สีให้วุ่นวายแล้ว ยังเป็นไอเดียการแต่งตัวที่ให้ลุคสบายๆ เหมาะกับบรรยากาศของการพักผ่อนเป็นที่สุด ฉะนั้นถ้าคิดอะไรไม่ออก หยิบชุดสีขาวครีมมาใส่ ยังไงก็รอด

• เดรสง่ายๆ สไตล์มินิมอล
  สำหรับใครที่ขี้เกียจแต่งตัว แต่อยากได้รูปสวยๆ คูลๆ แค่มีเดรสเรียบๆ สไตล์มินิมอลติดกระเป๋าไว้ซักตัว ก็ปังได้ง่ายๆ แล้ว ซึ่งเดรสเรียบๆ ที่ว่านี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้เราได้รูปออกมาสวยสไตล์มินิมอลเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับสาวๆ ที่แต่งตัวไม่เป็น มิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าไม่ค่อยจะถูกเอามากๆ เลยล่ะ แต่ถ้าใครกลัวว่าจะดูเรียบเกินไป ก็ให้เลือกเป็นเดรสแบบที่มีดีไซน์เว้าโชว์หลัง เซ็กซี่เล็กๆ แต่รูปปังมาก

• เสื้อคลุมกันแดดเก๋ๆ
  ไอเทมเสื้อผ้าง่ายๆ ที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ เสื้อคลุมกันแดดเก๋ๆ เพราะต่อให้ชุดจะดูไม่ปังเท่าไหร่ แต่ถ้ามีเสื้อคลุมกันแดดสวยๆ มาใส่คลุมไว้ซักตัว แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวหลุดคอนเซปเที่ยวทะเล แถมได้รูปสุดชิคเรียกยอดไลก์ได้รัวๆ ไม่แพ้ใครแน่นอน

                  สำหรับใครที่มีแพลนจะเที่ยวทะเลในหน้าร้อนที่จะถึงนี้ แต่ยังไม่มีชุด หรือยังไม่รู้จะแต่งตัวยังไงดี ก็สามารถนำไอเดียแต่งตัวเที่ยวทะเลของเราไปเป็นแนวทางได้ จากนั้นก็เตรียมเงินในกระเป๋าแล้วไปสอยเสื้อผ้ามาใส่ตามกันเลย

              ถ้าจะถามถึงที่เที่ยวยอดฮิตของประเทศเมืองร้อน ที่มีพื้นที่ติดทะเลแบบบ้านเรา ก็คงจะหนีไม่พ้นชายหาด และเกาะต่างๆ เป็นแน่ ใครที่มีแพลนจะเที่ยวสถานที่เหล่านี้ เคยรู้สึกหนักใจกับการหาเสื้อผ้าเหมาะๆ มาใส่กันบ้างไหม เพราะถ้าเคยล่ะก็ วันนี้เรามีไอเดียการแต่งตัวไปเที่ยวทะเลสุดปัง ที่จะทำให้สาวๆ ได้รูปสวยๆ พร้อมกับยอดกดไลก์รัวๆ เลยทีเดียว ไปดูกันดีกว่าว่าต้องแต่งตัวยังไงกันบ้าง

นำไอเดียแต่งตัวเที่ยวทะเลของเราไปเป็นแนวทางได้ จากนั้นก็เตรียมเงินในกระเป๋าแล้วไปสอยเสื้อผ้ามาใส่ตามกันเลย

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy

                 สำหรับประเทศเมืองร้อนแบบบ้านเรา คงไม่มีแฟชั่นไหนจะเหมาะไปกว่า เสื้อผ้าลายดอก อีกแล้ว แต่ก็ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเสื้อผ้าลายดอกนั้นเป็นไอเทมที่แมตช์ยากอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าแมตช์ไม่ดี แทนที่จะปังก็พังเอาง่ายๆ เลย วันนี้เราจึงมีไอเดียแมตช์เสื้อผ้าลายดอกมาให้สาวๆ ได้ลองเอาไปทำตามกันดู ถ้าแมตช์ตามนี้รับรองไม่มีพังแน่นอน

สวยง่ายๆ ด้วยเดรสลายดอก
ถ้าไม่อยากต้องยุ่งยากแมตช์เสื้อผ้าหลายชิ้น ก็แค่เลือกใส่เป็นเดรสลายดอกที่มีดีเทลสวยๆ เท่านี้ก็ชิคได้แล้ว ซึ่งถ้ากลัวว่าใส่เดรสลายดอกแล้วจะดูเป็นแฟชั่นคุณป้า แนะนำว่าให้เลือกตัวเดรสที่มีดีเทลการตัดเย็บเก๋ๆ ที่ไม่เรียบจนเกินไป เพราะดีไซน์ของตัวชุดจะช่วยให้ดูดีขึ้นมาได้ง่ายๆ เลยล่ะ

เลือกใส่ชุดเซ็ตลายดอกที่เข้ากัน
นอกจากเดรสลายดอกแล้ว อีกหนึ่งไอเดียง่ายๆ ในการใส่ลายดอกให้ออกมาสวยดูดี โดยที่ไม่ต้องแมตช์เสื้อผ้ามาก ก็คือการเลือกใส่ชุดเซ็ตลายดอก ที่มีลายเข้ากันทั้งชุด โดยท่อนล่างจะเลือกเป็นกระโปรงหรือกางเกงก็ได้ ตามสไตล์ของแต่ละคนเลย ซึ่งความดีงามของชุดเซ็ตแบบนี้ นอกจากจะทำให้เราไม่ต้องคิดเยอะเวลาแต่งตัวแล้ว ยังไม่ต้องวุ่นวายกับการจับแมตช์กับตัวอื่น แถมเรายังสามารถแยกชิ้นไปใส่กับเสื้อผ้าตัวอื่นๆ ได้อีกด้วย

แมตช์ดอกกับเสื้อผ้าสีพื้นเรียบๆ
ต้องบอกว่าเสื้อผ้าลายดอกเป็นไอเทมที่แมตช์ยากพอตัว แต่ถ้าจะให้แมตช์แล้วรอดชัวร์ ก็ต้องหยิบลายดอกมาคู่กับเสื้อผ้าในโทนสีเรียบๆ รับรองว่าเซฟสุด โดยจะเลือกเป็นเสื้อผ้าสีขาว ดำ หรือสีเอิร์ธโทนก็ได้ หรือถ้าอยากได้ลุคที่ดูทะมัดมะแมงมากขึ้น จะแมตช์กับยีนส์ก็ยังได้

ไอเทมเสริมลายดอก
และสุดท้าย สำหรับใครที่ใจไม่กล้าพอจะใส่เสื้อผ้าลายดอก แต่ก็อยากให้การแต่งตัวดูมีสีสัน ไม่เรียบง่ายจนเกินไป เรามีทางออกดีๆ จะมาแนะนำ นั่นก็คือ การหาไอเทมลายดอกเก๋ๆ มาเป็นพรอพ ตัวอย่างเช่น ผ้าโพกผม ผ้าพันคอ หมวก หรือให้เข้ากับยุคสมัยหน่อยจะใช้เป็นแมสก์ลายดอกก็เก๋ไปอีกแบบ

              จะเห็นได้ว่าการแมตช์เสื้อผ้าลายดอกให้ดอกมาดูดีนั้นมีหลายวิธี แค่เพียงจำหลักสำคัญไว้ว่า อย่าได้หยิบเสื้อผ้าลายดอกมาแมตช์กับเสื้อผ้าลายอื่นๆ ถ้าใจไม่ถึงพอ เพราะแบบนั้นมันเหมาะจะเป็นเสื้อผ้าของคนที่เดินบนแคทวอล์ค มากกว่าเสื้อผ้าของคนธรรมดา

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสาร fashion และไม่ตกเทนด์ เข้ามาติดตามอ่านที่เว็บไซต์ checkin-fashion.com เพิ่มการติดตามทาง Facebook Beauthy healthy